ชำแหละ A-Level ภาษาอังกฤษออกอะไรบ้าง พร้อมเทคนิคการทำข้อสอบ

ข้อสอบ A-Level ภาษาอังกฤษ เป็นข้อสอบที่น้อง ๆ ทุกคนต้องเข้าสอบ หากต้องการเข้าเรียนในระดับมหาวิทยาลัย เป็นวิชาพื้นฐานที่ต้องทำคะแนนให้ดี และควรมีการเตรียมตัวให้พร้อมที่สุด เพื่อความได้เปรียบเวลาทำข้อสอบ และให้มีคะแนนดี ๆ ในการยื่นเข้ามหาวิทยาลัยอย่างที่น้อง ๆ ต้องการ

ข้อสอบ A-Level ภาษาอังกฤษ คืออะไร?

ข้อสอบ A-Level เป็นข้อสอบวิชาสามัญเดิมที่สอบวัดความรู้วิชาพื้นฐานเพื่อสอบเข้ามหาวิทยาลัย โดยคำว่า A-Level ย่อมาจาก Applied Knowledge Level ซึ่งจากชื่อจะเห็นได้ว่า ไม่ได้สอบวัดความรู้เชิงวิชาการแบบตรง ๆ ตามที่เรียนมาอย่างเดียวเท่านั้น แต่เป็นการวัดความรู้จากการนำไปใช้จริงอีกด้วย

สำหรับข้อสอบ A-Level จะเปิดให้สอบทั้งหมด 16 วิชา ได้แก่ คณิตศาสตร์ประยุกต์ 1 คณิตศาสตร์ประยุกต์ 2 วิทยาศาสตร์ประยุกต์ ฟิสิกส์ เคมี ชีววิทยา สังคมศึกษา ภาษาไทย ภาษาอังกฤษ ภาษาฝรั่งเศส ภาษาเยอรมัน ภาษาญี่ปุ่น ภาษาเกาหลี ภาษาจีน ภาษาบาลี และภาษาสเปน ซึ่งแต่ละคณะและมหาวิทยาลัย จะใช้คะแนนในแต่ละวิชาที่แตกต่างกันออกไป

การสอบ A-Level ภาษาอังกฤษ เป็นหนึ่งในข้อสอบกลางที่ใช้ยื่นคะแนนเพื่อเข้าศึกษาต่อแทบจะทุกคณะ ไม่ว่าคณะสายวิทย์ หรือสายศิลป์ โดยการสอบในปัจจุบันจะเป็นข้อสอบกระดาษเท่านั้น โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้

• ข้อสอบมีทั้งหมด 3 พาร์ต จำนวน 80 ข้อ เป็นข้อสอบปรนัยทั้งหมด มี 4 ตัวเลือก คะแนนรวม 100 คะแนน
• ระยะเวลาในการสอบ 1 ชั่วโมง 30 นาที
• ใช้ยื่นคะแนนในรอบที่ 2 Quota รอบที่ 3 Admission และรอบที่ 4 Direct admission

ข้อสอบ A-Level ภาษาอังกฤษ ออกอะไรบ้าง?

โครงสร้างข้อสอบ A-Level ภาษาอังกฤษจะแบ่งเป็นทั้งหมด 3 พาร์ต ดังต่อไปนี้

ทักษะการฟังและการพูด (Listening and Speaking Skills)

สำหรับทักษะการฟังและการพูด จะเป็นการเติมบทสนทนาในชีวิตประจำวัน มีทั้งหมด 20 ข้อ คะแนนรวม 25 คะแนน โดยแบ่งเป็น 2 พาร์ตย่อย ดังนี้

• Short conversation เป็นการเติมบทสนทนาแบบสั้น จำนวน 3 บทสนทนา ใน 1 บทสนทนาจะมีทั้งหมด 4 ข้อ รวมเป็น 12 ข้อ แบ่งเป็นข้อสอบระดับง่าย 3 ข้อ ระดับกลาง 6 ข้อ และระดับยาก 3 ข้อ
• Long conversation เป็นการเติมบทสนทนาแบบยาว จำนวน 1 บทสนทนา มีคำถามทั้งหมด 8 ข้อ แบ่งเป็นข้อสอบระดับง่าย 1 ข้อ ระดับกลาง 6 ข้อ และระดับยาก 1 ข้อ

ทักษะการอ่าน (Reading Skill)

ข้อสอบทักษะการอ่านจะมีทั้งหมด 40 ข้อ มีคะแนนรวมทั้งสิ้น 50 คะแนน โดยแบ่งเป็น 5 หมวดหมู่ดังต่อไปนี้

• Advertisement บทความโฆษณา จำนวน 2 บทความ บทความละ 3 ข้อ รวมเป็น 6 ข้อ แบ่งเป็นข้อสอบระดับง่าย 2 ข้อ ระดับกลาง 2 ข้อ และระดับยาก 2 ข้อ
• Product or service review บทวิจารณ์สินค้าหรือบริการ จำนวน 1 บทความ มีคำถามทั้งหมด 6 ข้อ แบ่งเป็นข้อสอบระดับง่าย 1 ข้อ ระดับกลาง 4 ข้อ และระดับยาก 1 ข้อ
• News report รายงานข่าว จำนวน 1 บทความ มีคำถามทั้งหมด 6 ข้อ แบ่งเป็นข้อสอบระดับง่าย 1 ข้อ ระดับกลาง 4 ข้อ และระดับยาก 1 ข้อ
• Visual ภาพประกอบบทความ อย่างกราฟ ตาราง แผนผัง หรือแผนภูมิ จำนวน 2 บทความ บทความละ 3 ข้อ รวมเป็น 6 ข้อ แบ่งเป็นข้อสอบระดับง่าย 2 ข้อ ระดับกลาง 2 ข้อ และระดับยาก 2 ข้อ
• บทความทั่วไป ประมาณ 1 หน้าเอสี่ (500-600 คำ) จำนวน 2 บทความ บทความละ 8 ข้อ รวมทั้งหมด 16 ข้อ แบ่งเป็นข้อสอบระดับง่าย 3 ข้อ ระดับกลาง 10 ข้อ และระดับยาก 3 ข้อ

ทักษะการเขียน (Writing Skill)

ข้อสอบในพาร์ตทักษะการเขียนของข้อสอบ A-Level ภาษาอังกฤษ จะเป็นการเติมข้อความให้สมบูรณ์ และถูกต้องตามหลักไวยากรณ์ โดยแบ่งเป็น 2 พาร์ตย่อยดังนี้

• Text completion เป็นการเติมคำหรือวลีให้สมบูรณ์ จำนวน 3 บทความ บทความละ 5 ข้อ รวมเป็น 15 ข้อ แบ่งเป็นข้อสอบระดับง่าย 2 ข้อ ระดับกลาง 11 ข้อ และระดับยาก 2 ข้อ
• Paragraph organization เป็นการเรียงประโยคให้กลายเป็นย่อหน้าที่สมบูรณ์ จำนวน 5 ย่อหน้า รวมทั้งหมด 5 ข้อ แบ่งเป็นระดับง่าย 1 ข้อ ระดับกลาง 3 ข้อ และระดับยาก 1 ข้อ

เทคนิคการเตรียมตัวสอบ A-Level ภาษาอังกฤษ

ข้อสอบ A-Level ภาษาอังกฤษ เป็นหนึ่งในชุดข้อสอบที่ต้องให้ความสำคัญ และควรทำคะแนนให้สูงกว่า 80 คะแนนขึ้นไป สำหรับผู้ที่ต้องการสอบเข้าในคณะที่ได้รับความนิยมและมีคะแนนค่อนข้างสูง โดยมีเทคนิคการเตรียมตัวอ่านดังต่อไปนี้

• พยายามเก็บคะแนนในพาร์ตการฟังและการพูดให้ได้มากที่สุด เนื่องจากเป็นพาร์ตที่ค่อนข้างง่าย และสามารถทำได้อย่างรวดเร็ว แนะนำให้ทำก่อนและจำกัดเวลาให้น้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ สำหรับเทคนิคการเตรียมสอบในพาร์ตนี้ ให้เราทำข้อสอบเก่า ๆ เพื่อให้รู้แนวข้อสอบ และอ่านพวก Idiom ในภาษาพูดเอาไว้มาก ๆ หรือบางคนใช้วิธีการเรียนภาษาอังกฤษจากภาพยนตร์ ก็จะช่วยให้เข้าใจบทสนทนาเพิ่มมากขึ้น
• ให้เวลากับพาร์ตการอ่าน เนื่องจากเป็นพาร์ตที่ค่อนข้างจะใช้ความละเอียดรอบคอบ ตัวหลอกก็มาก จึงควรให้เวลากับการทำข้อสอบในพาร์ตนี้ นอกจากการฝึกทำข้อสอบเก่าแล้ว แนะนำให้อ่านข่าวและบทความภาษาอังกฤษ เวลาเจอข้อสอบจริงจะได้ไม่ตื่นเต้นมาก
• พาร์ตการเขียน แนะนำให้ทำเป็นอันดับที่ 2 ต่อจากพาร์ตการฟังและพูด ซึ่งจะช่วยเซฟเวลาให้เรามีเวลากับการอ่านมากขึ้น แนะนำให้อ่านไวยากรณ์หรือ Grammar ให้แม่น ๆ ฝึกทำข้อสอบและทำความเข้าใจ เพื่อไม่ให้พลาดกับข้อง่าย ๆ

ข้อสอบภาษาอังกฤษเป็นข้อสอบที่ต้องใช้เวลาในการอ่านและฝึกฝนทักษะ เราจึงควรวางแผนการอ่านแต่เนิ่น ๆ นานเป็นปี เพื่อให้ได้คะแนนดังที่หวังเอาไว้ และไม่ตื่นเต้นจนเกินไปเวลาทำข้อสอบ

อยากทำข้อสอบ A-level ภาษาอังกฤษได้แบบมั่นใจ และไม่สับสนกับโครงสร้างของภาษา มาติวภาษาอังกฤษเข้ามหาวิทยาลัยกับ MonkeyEveryday เลย เราสอนเทคนิคทั้งการฟัง พูด อ่าน เขียน และแกรมมาร์ ไม่พลาดทุกพาร์ตอย่างแน่นอน

เลือกคอร์สเรียนที่ใช่ได้ทางเว็บไซต์ หรือปรึกษาพี่จ๋อได้เลยที่ Facebook Fanpage: https://monkeyeveryday.com/campaign/pretest และ เบอร์โทรศัพท์ 094-903-2323

ข้อมูลอ้างอิง

1. โครงสร้างข้อสอบและตัวอย่างข้อสอบ A-Level 82 Eng ภาษาอังกฤษ. สืบค้นเมื่อวันที่ 28 กันยายน 2566 จาก https://blueprint.mytcas.com/a-level-82-eng/