How to จัดตารางอ่านหนังสือติวเข้ามหาลัยอย่างไรให้ปัง!
How to
Trick&Tips
A-level
profile
พี่เซียนจ๋อ
2022-06-15

How to จัดตารางอ่านหนังสือติวเข้ามหาลัยอย่างไรให้ปัง!

อ่านหนังสือติวเข้ามหาลัย

ม.6 ถือเป็นช่วงเวลาที่สำคัญมากที่สุดในการเรียนมัธยมเลยก็ว่าได้ เพราะเป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อสู่ชีวิตมหาวิทยาลัย ใครจะได้ไปเรียนต่อในมหาวิทยาลัยไหนก็อยู่ที่คะแนนสอบ Admission นี่แหละ ซึ่งที่แน่ ๆ กว่าจะไปถึงจุดนั้นได้ น้อง ๆ ทุกคนก็ต้องผ่านการอ่านหนังสือสอบเพื่อติวเข้ามหาลัยกันอย่างขะมักเขม้นแน่นอน

แต่วันนี้ถือว่าเป็นโชคดีของน้อง ๆ เพราะพี่ ๆ ได้รวบรวม How to ดี ๆ ในการจัดตารางอ่านหนังสือสำหรับติวเข้ามหาลัยแบบง่าย ๆ มาฝากกัน พร้อมแจกทริกในการทำ Short Note ให้จำง่ายไว้ใช้เตรียมตัวกันตั้งแต่เนิ่น ๆ จะได้มีความพร้อมต่อสู้ในทุกสนามสอบ! ถ้าอยากรู้แล้วก็ไปลุยกันเลย!

1. ช่วงปิดเทอมขึ้น ม.6 ทบทวนเนื้อหา ม.4 ม.5 ให้แน่นปึ้ก

สิ่งที่น้อง ๆ ต้องรู้ก่อนเลยก็คือ ข้อสอบเข้ามหาวิทยาลัยจะมีเนื้อหาของทุก ๆ ชั้นมัธยม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เนื้อหา ม.4 กับ ม.5 ซึ่งค่อนข้างมีสัดส่วนในข้อสอบที่เยอะมากทีเดียว เพราะฉะนั้น แนะนำให้น้อง ๆ อ่านทบทวนเนื้อหาเก่า โดยทำความเข้าใจถึงเนื้อหาพื้นฐานและหลักการของแต่ละวิชาของ ม.4 และ ม.5 เอาไว้ตั้งแต่ช่วงปิดเทอมก่อนขึ้น ม.6 ให้แน่นปึ้ก ยกตัวอย่างเช่น ไวยากรณ์ภาษาอังกฤษ หลักภาษาไทย ที่มาของสูตรทางคณิตศาสตร์หรือฟิสิกส์ เป็นต้น โดยอาจฝึกเล่าให้เพื่อน ๆ ฟัง หรือเขียนโน้ตเพื่อสร้างความเข้าใจก็จะดีมาก เพราะนั่นหมายความว่าเรารู้ถึงเนื้อหาเป็นอย่างดีแล้ว

2. วางแผนการอ่านหนังสือในแต่ละวันให้ชัดเจน

สมมติว่าน้อง ๆ ตั้งใจว่าจะเข้าเรียนในคณะศิลปศาสตร์ สาขาวิชาภาษาอังกฤษ มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง น้องก็ต้องไปเช็กกฎเกณฑ์ที่ทางมหาวิทยาลัยนั้นประกาศแล้วว่า สาขาวิชานั้นใช้คะแนนของวิชาอะไรยื่นบ้าง และใช้สัดส่วนคะแนนของวิชาอะไรมาก-น้อยตามลำดับ รวมถึงมีการออกข้อสอบแบบไหน รับทั้งหมดกี่คน และหากมีคะแนนสูง-ต่ำของปีที่ผ่าน ๆ มาด้วยก็จะดีมาก เพราะเราจะได้นำมาวางแผนการอ่านหนังสือได้ง่ายขึ้น ขอแนะนำให้น้อง ๆ พยายามจัดตารางให้มีความยืดหยุ่น แต่ไม่หย่อนยานจนกลายเป็นทำไม่สำเร็จ โดยสามารถแบ่งเวลา 3 - 4 ชั่วโมงต่อวันในการอ่าน โดยจะเป็นการอ่านแบบรวดเดียวก็ได้หรือแบ่งเป็นช่วง ๆ ก็แล้วแต่ความสะดวกของแต่ละคน

3. ทบทวนและทำข้อสอบเป็นระยะ

นอกจากการอ่านทบทวนและทำความเข้าใจเนื้อหาแล้ว สิ่งที่เป็นองค์ประกอบสำคัญในการวัดว่าเราเข้าใจเนื้อหาวิชานั้น ๆ ดีแล้วหรือยังก็คือ การทำข้อสอบคู่กับการอ่านหนังสือไปเป็นระยะ ๆ เพราะว่าในการฝึกทำข้อสอบเก่า ๆ จะช่วยให้เรารู้ว่าตัวเราอ่อนตรงจุดไหน หรือไม่เข้าใจในส่วนใด รวมถึงต้องอ่านซ้ำหรือทำความเข้าใจตรงไหนเพิ่มเติมหรือไม่ น้อง ๆ ควรจำเอาไว้เสมอว่า การอ่านที่มีประสิทธิภาพจะต้องมีการวัดผล เพื่อให้เรารู้ว่าสิ่งที่อ่านไปนั้นได้สร้างความเข้าใจให้กับเราได้มากน้อยแค่ไหนด้วย

4. ผลัดกันติวกับเพื่อน

สำหรับบางคน การอ่านหนังสือคนเดียวอาจทำให้รู้สึกเบื่อหน่ายหรือหากเกิดข้อสงสัยในเนื้อหาบางจุดซึ่งอาจทำให้ยิ่งไม่เข้าใจไปกันใหญ่ ซึ่งอีกหนึ่ง How to ในการติวเข้ามหาลัยที่ดีมาก ๆ และช่วยปัญหานี้ได้ดีก็คือ การนัดติวหรือผลัดกันติวกับกลุ่มเพื่อนที่มีความเก่งในแต่ละวิชาที่แตกต่างกัน ซึ่งเป็นวิธีที่ช่วยให้เราสามารถจดจำเนื้อหาได้ง่าย สนุกและไม่น่าเบื่อ ซึ่งหากเนื้อหาส่วนไหนที่เราไม่เข้าใจก็สามารถถามเพื่อนที่เก่งวิชานั้น ๆ ให้อธิบายให้ฟังได้อย่างไม่รู้สึกขัดเขิน ที่สำคัญเพื่อน ๆ จะสามารถอธิบายให้เราเข้าใจในเนื้อหาและช่วยเสริมจุดอ่อนที่เราขาดไปได้อีกด้วย

5. Short Note หลังติวหนังสือทุกครั้งเพื่อเอาไว้ทบทวน

การอ่านที่ดี ต้องอย่าลืม Short Note ด้วย เพราะการ Short Note จะเป็นการทบทวนและสรุปเนื้อหาในส่วนสำคัญ ๆ แบบสั้น ๆ แต่ได้ใจความในแบบของเรา ซึ่งสามารถพกไปทบทวนช่วงใกล้สอบอีกครั้ง แบบไม่ต้องกลับไปอ่านหนังสือเล่มใหญ่ทั้งหมดอีกรอบ โดยจะมีทริกทั้งหมด 5 ข้อในการทำ Short Note ให้จำง่ายและมีประสิทธิภาพ ดังนี้

  1. อ่านให้เข้าใจเนื้อหาทั้งหมดก่อนจด
  2. สรุปเนื้อหาตามความเข้าใจของเราเอง
  3. ใช้สี ภาพวาดและแผนภูมิในการช่วยจด
  4. ไม่จดเยอะเกินไป ให้เน้นโน้ตแค่เฉพาะจุดสำคัญ
  5. จดแล้วอย่าลืมทบทวนเป็นประจำ

6. ช่วงใกล้สอบ อย่าลืมลองฝึกตะลุยโจทย์มาก ๆ

และโค้งสุดท้ายของการติวสอบเข้ามหาวิทยาลัยหลังจากที่เราอ่านหนังสือพร้อมทุกวิชาที่ต้องสอบแล้ว ก็คือ การตะลุยโจทย์หรือทำข้อสอบจริงย้อนหลังเพื่อเตรียมความพร้อม เพื่อเพิ่มความมั่นใจก่อนลงสู่สนามสอบจริงให้ได้มากที่สุด แนะนำให้น้อง ๆ ลองไปฝึกทำข้อสอบย้อนหลังวิชาวิชานั้น ๆ อย่างน้อย 5 - 10 พ.ศ. พร้อมกับจำลองการสอบจริงโดยการจับเวลาทำข้อสอบ ซึ่งวิธีนี้จะช่วยลดอาการตื่นสนามให้น้อยลงและทำข้อสอบได้อย่างมีสติในสนามจริงมากขึ้น

และทั้งหมดนี้ก็คือ How to จัดตารางอ่านหนังสือติวเข้ามหาลัยอย่างไรให้ปังที่พี่ ๆ นำมาฝาก โดยข้อดีของการที่เราอ่านหนังสือตั้งแต่เนิ่น ๆ แบบนี้ คือการที่เราไม่ต้องรีบอ่านเมื่อการสอบใกล้เข้ามา ทำให้น้อง ๆ ไม่รู้สึกกดดันในการจดจำเนื้อหาช่วงใกล้สอบอีกด้วย

สำหรับน้อง ๆ คนไหนที่รู้สึกยังไม่พร้อมและต้องการติวเตอร์เก่ง ๆ มาช่วยสอนและสร้างความเข้าใจในเนื้อหาแบบง่าย ๆ สามารถลงเรียนคอร์สติวเข้ามหาลัยแบบ Intensive ที่อัดแน่นด้วยเนื้อหาความรู้แบบจัดเต็มจาก MonkeyEveryday กันได้เลย สามารถสอบถามข้อมูลคอร์สเรียนเพิ่มเติม หรือต้องการคลังข้อสอบดี ๆ ไว้ฝึกทำก่อนลงสอบสนามจริงทักมาได้เลยที่ Line: @monkeyeveryday (มี @ ด้วยนะ)