สรุปครบ! เรื่องที่ควรรู้กับการเตรียมสอบแพทย์

อยากเรียนหมอต้องทำยังไง? เชื่อว่า “อาชีพหมอ” เป็นหนึ่งในอาชีพในฝันของน้อง ๆ แต่การจะสอบติดคณะแพทยศาสตร์ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ก็ไม่ยากเกินไปเช่นกัน เพราะหากน้อง ๆ เริ่มต้นด้วยความตั้งใจและมุ่งมั่น การได้เรียนในคณะในฝันก็อยู่แค่เอื้อม วันนี้พี่จ๋อจะมาให้คำแนะนำ สำหรับน้อง ๆ ที่อยากเรียนหมอว่าต้องเริ่มต้นจากอะไร พร้อมจะมาบอกถึง 5 เคล็ดลับสอบติดแพทย์ ที่หากทำตามนี้ได้ครบ รับรองว่ามีเปอร์เซ็นต์ติดหมออย่างที่ตั้งใจเอาไว้ชัวร์!

อยากเป็นหมอต้องเริ่มจากอะไร?

อาชีพหมอ อีกหนึ่งอาชีพมาแรง และเป็นที่นิยมในกลุ่มน้อง ๆ ยุคใหม่ อีกทั้งยังเป็นอาชีพที่มีความต้องการสูงในตลาดแรงงาน สามารถทำงานได้ทั้งในภาครัฐและเอกชน และมีรายได้ดี ทำให้ในแต่ละปีมีน้อง ๆ สมัครสอบเข้าคณะแพทยศาสตร์เป็นจำนวนมาก ซึ่งหากน้องคนไหนมีการเตรียมตัวมาอย่างดี และเริ่มต้นวางแผนเตรียมสอบแพทย์มาตั้งแต่เนิ่น ๆ โอกาสสอบติดแพทย์ก็อยู่ไม่ไกล

ทำความรู้จักกับ กสพท.

อยากเป็นหมอต้องเริ่มจากอะไร? สำหรับน้อง ๆ ที่กำลังเตรียมตัวสอบเข้าในคณะแพทย์ของมหาวิทยาลัยต่าง ๆ คงเคยได้ยินคำว่า กสพท. กันมาบ้าง ซึ่งเป็นชื่อย่อของกลุ่มสถาบันแพทยศาสตร์แห่งประเทศไทย ซึ่งเป็นการรวมกลุ่มของคณะแพทยศาสตร์, คณะทันตแพทยศาสตร์, คณะเภสัชศาสตร์ และคณะสัตวแพทยศาสตร์ ที่ได้จัดตั้งขึ้นมาเพื่อร่วมกันคัดเลือกนักเรียนที่อยากจะเรียนต่อในคณะที่เกี่ยวกับแพทย์นั่นเอง

วิชาที่ต้องให้ความสำคัญในการสอบเข้าคณะแพทย์ฯ

รอบ 1 : Portfolio

เป็นรอบที่น้อง ๆ ต้องรวบรวมผลงานที่เคยทำ ไม่ว่าจะเป็น กิจกรรม การประกวด หรือรางวัลที่ได้รับ ตามที่มหาวิทยาลัยนั้น ๆ ได้กำหนดไว้ รวมถึงผลการเรียนและคะแนนสอบอื่น ๆ ดังนี้

คะแนนสอบภาษาอังกฤษ เช่น IELTS, TOEFL, CU-TEP
คะแนนสอบวิชาอื่น ๆ เช่น BMAT, SAT
ผลการเรียน (GPA หรือ GPAX)

รอบ 2 : โควตา

เป็นรอบพิเศษที่มหาวิทยาลัยจะกำหนดเกณฑ์การรับสมัครที่แตกต่างกันออกไป เช่น โควตาพื้นที่ โครงการที่กำหนดพื้นที่ผู้สมัครตามเกณฑ์มหาวิทยาลัย โครงการแพทย์ชนบท หรือโอลิมปิกวิชาการ เป็นต้น รวมถึงผลการเรียนอื่น ๆ ดังนี้

ผลการเรียนสะสม (GPAX)
คะแนนวิชาความถนัดแพทย์ + 7 วิชาสามัญ
คะแนนวิชาความถนัดแพทย์ + GAT, PAT 1 และ PAT 2
คะแนนสอบภาษาอังกฤษ เช่น IELTS, TOEFL

รอบ 3 : กสพท.

เป็นรอบการสอบที่เปิดรับสมัครมากที่สุด เมื่อเทียบกับรอบอื่น ๆ โดยในแต่ละมหาวิทยาลัยจะเป็นผู้กำหนดเกณฑ์คะแนนเอง ทำให้มีเกณฑ์ในการคัดเลือก และเกณฑ์คะแนนที่แตกต่างกัน สำหรับน้อง ๆ ที่เตรียมสอบแพทย์ในรอบนี้ จะใช้คะแนนสอบเป็นหลัก และมีเวลาเตรียมตัวนาน ทำให้สามารถวางแผนการเตรียมสอบได้

คะแนน 7 วิชาสามัญ ใช้ 70%*
คะแนนวิชาความถนัดแพทย์ ใช้ 30%* *เกณฑ์ขั้นต่ำในแต่ละวิชาต้องไม่น้อยกว่า 30% ของคะแนนเต็มวิชานั้น ๆ

รอบ 4 : รับตรงอิสระ

เป็นรอบสุดท้ายหรือรอบเก็บตก ทำให้จำนวนคณะและมหาวิทยาลัยที่เปิดรับนั้นมีน้อย โดยในรอบนี้ มหาวิทยาลัยจะเป็นผู้กำหนดเกณฑ์อย่างอิสระ

คะแนนวิชาความถนัดแพทย์ + 7 วิชาสามัญ
คะแนนวิชาความถนัดแพทย์ + GAT, PAT 1 และ PAT 2
เกณฑ์คะแนนของแต่ละมหาวิทยาลัยที่กำหนด

สรุป 5 เคล็ดลับเตรียมสอบแพทย์ให้ติด!

tips-for-medical-entrance

1. รู้จักวิชาหลักที่ต้องให้ความสำคัญอันดับแรก ๆ

ถึงแม้ว่าการเตรียมสอบแพทย์จะมีการแข่งขันสูง โดยในแต่ละรอบจะมีจุดเด่นและใช้เกณฑ์คะแนนที่แตกต่างกันออกไป ดังนั้น ใครอยากสอบติดรอบไหน แนะนำให้ทำความเข้าใจในคะแนนวิชาหลักในรอบนั้น ๆ ให้ดี และจัดลำดับความสำคัญในการเตรียมตัวสอบให้เหมาะสม

2. จัดตารางเวลาอ่านให้เหมาะสม

ขอแนะนำเคล็ดลับจัดตารางอ่านหนังสือให้เหมาะสม โดยเริ่มต้นจากวิชาที่ยากหรือมีเนื้อหาเยอะก่อน จากนั้นกำหนดจำนวนชั่วโมงในการอ่านหนังสือ และที่สำคัญ ควรมีเวลาพักเบรกทุก 25-30 นาที เพื่อให้สมองได้ผ่อนคลาย และส่งเสริมประสิทธิภาพการอ่านที่ดีขึ้น

3. ฝึกทำโจทย์เก่า และจำลองสนามสอบจริง

การฝึกทำโจทย์เก่าและจำลองสนามสอบจริงเป็นสิ่งสำคัญในการเตรียมสอบแพทย์ เพราะจะช่วยให้น้อง ๆ ได้ฝึกฝนทักษะในการคิดวิเคราะห์และแก้ปัญหาโจทย์ในหลากหลายรูปแบบ และยังช่วยให้รู้ทันแนวข้อสอบของสนามสอบจริง ทำให้สามารถวางแผนในการทำข้อสอบได้อย่างมีประสิทธิภาพ

4. จัดกลุ่มติว เพื่อความเข้าใจและความมั่นใจ

การจัดกลุ่มติวหนังสือเป็นวิธีการหนึ่งที่ช่วยให้น้อง ๆ ได้ทบทวนเนื้อหาและเตรียมตัวสอบได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น เนื่องจากสามารถถามคำถามและพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันได้อย่างอิสระ โดยขอแนะนำให้รวมกลุ่มกับเพื่อนที่มีความสนใจและระดับความรู้ใกล้เคียงกัน เพื่อแลกเปลี่ยนความรู้และแบ่งปันความคิดได้อย่างเต็มที่

5. การพักผ่อนยังคงสำคัญ

การอ่านหนังสือ ทบทวนความรู้ และแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเป็นเรื่องสำคัญในการเตรียมสอบ แต่เหนือสิ่งอื่นใดคือการมีเวลาพักผ่อน เพื่อผ่อนคลายสมองและร่างกาย โดยเฉพาะก่อนวันสอบจริง แนะนำให้ทบทวนเนื้อหาที่สำคัญพอประมาณและนอนให้เพียงพอ เมื่อตื่นขึ้นมาก็จะรู้สึกสดชื่นและพร้อมลงสนามสอบแล้ว!

หากน้อง ๆ คนไหนที่อยากเรียนหมอ แต่ยังไม่มีความมั่นใจ การลงเรียนพิเศษเพิ่มในสถาบันที่น่าเชื่อถือ และมีติวเตอร์เก่ง ๆ จะทำให้น้อง ๆ ได้รับคำแนะนำที่ดีและถูกต้อง ที่ MonkeyEveryday มีคอร์สติวสอบเข้ามหาลัยออนไลน์ ที่จัดเต็มทั้งเนื้อหาและตะลุยโจทย์ พร้อมเทคนิคเฉพาะที่จะช่วยให้น้อง ๆ วิเคราะห์โจทย์ได้อย่างว่องไว ทำข้อสอบได้แม่นยำ ได้คะแนนสอบอย่างที่ตั้งใจ!

เลือกคอร์สเรียนที่ใช่ได้ทางเว็บไซต์ หรือปรึกษาพี่จ๋อได้เลยที่ Facebook Fanpage: https://monkeyeveryday.com/campaign/pretest และ เบอร์โทรศัพท์ 094-903-2323